วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ฟอร์มของ จิราวรรณ จันทร์เลขา

ฟอร์มของชนากานต์ ช้างเย็น

 

ฟอร์มของนางสาวฑิษาณี อภิธรรม

แบบทดสอบ

 

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ข้อมูลมีค่า

 “ข้อมูล” กำลังเป็นสิ่งมีค่ามากกว่า “น้ำมัน”



         หากเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครคาดคิดว่า ราคาน้ำมันจะดิ่งลงมากขนาดนี้เพราะเรารู้กันดีว่า น้ำมันเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดดังนั้นน้ำมันน่าจะมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำแต่โควิด-19 ก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าความเชื่อนั้นไม่เป็นจริงเสมอไปเพราะในวันที่คนออกจากบ้านน้อยลง เดินทางน้อยลงน้ำมันที่เคยมีค่าในวันนั้นกลับกลายเป็นของที่ผลิตได้มากล้น จนเกินกักเก็บได้
            เรื่องประหลาดที่สิ่งที่มีค่ามากกว่าน้ำมันนั้นมีคุณสมบัติตรงข้ามกับน้ำมันเพราะเป็นทรัพยากรที่ไม่มีวันหมด และดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่ถึงแม้มันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเท่าไรคุณค่าของมันกลับไม่ได้ลดลงเหมือนทรัพยากรทั่วไปแถมสิ่งนี้ไม่ได้มีตัวตนจับต้องได้ล่องลอยไปในอากาศ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้ประโยชน์จากมันให้มีประสิทธิภาพที่สุดทรัพยากรที่ว่านั้นก็คือ “ข้อมูล” นั่นเอง..
ถ้าเราลองดูบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในปี 2019 เราก็จะพบว่า
    Amazon มีมูลค่าบริษัท 30 ล้านล้านบาท
    Google มีมูลค่าบริษัท 28 ล้านล้านบาท
    Facebookมีมูลค่าบริษัท 16.6 ล้านล้านบาท
บริษัทอันดับต้นๆ ของโลก ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ เป็นบริษัทเทคโนโลยีสิ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้กับธุรกิจเทคโนโลยีนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเท่านั้นแต่มันคือ “ข้อมูล” ของผู้ใช้งาน
    Google รู้ว่าเราอยากหาข้อมูลอะไร 
    Facebook รู้ว่าเราชอบเสพเรื่องราวประเภทไหน
    Amazon รู้ว่าเราอยากซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าแบบไหน
เพียงเท่านี้ บริษัทเหล่านี้ก็จะได้ประโยชน์มหาศาลจากข้อมูลของเราโดยนำข้อมูลการใช้งานของเราไปวิเคราะห์และประมวลผลซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงตัวตนของเราได้ง่ายขึ้นจากนั้นก็จะนำเสนอข้อมูล สินค้า หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เราน่าจะสนใจและตรงกับความต้องการของเรารวมถึงทำการตลาดที่เหมาะสมกับตัวตนของเรามากขึ้นหรือแม้แต่มีผลต่อความคิดเห็นทางการเมืองตัวอย่างก็คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในปี 2016ชัยชนะของดอนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เหมือนการเลือกตั้งในครั้งก่อนๆแต่เป็นชัยชนะโดยใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์และประมวลผลอย่างดีแล้วใช้มันในการหาเสียงในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ประโยชน์จากข้อมูลของเราส่วนเราก็อาจจะได้ผู้ช่วยที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเราได้ดียิ่งขึ้นแต่นั่นก็เป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำลายความเป็นส่วนตัวของเราเช่นกันเพราะกลายเป็นว่าเราจะไม่หลงเหลือความเป็นส่วนตัวในชีวิตเลย..

อาชีพเงินรายได้ดี!! ในยุค Data มีค่ากว่าน้ำมัน



แบบทดสอบ

กำลังโหลด…